…ทริปนี้เป็นทริปการเดินทางพักผ่อนแบบจริง ๆ จัง ๆ ในรอบหลายการเดินทางที่ผ่านมาของผม เพราะทุกครั้งที่เดินทางไปไหนมาไหนส่วนใหญ่ก็จะเป็นในรูปของการทำงานไปด้วย ดังนั้นทริปพิเศษทริปนี้จึงควงคุณเธอสาวเจ้าไปเที่ยวกรุงโซลด้วยกันถือว่าเป็นการพักผ่อนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างแท้จริง

…โดยเริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินดอนเมืองอาคาร 1 บินไปกับสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์เที่ยวบินที่ XJ 700 (กรุงเทพ – อินชอน) ไฟล์ทดีงามมากครับขึ้นเครื่องตี 2.20 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม(หลังคริสต์มาส 1 วัน) ส่วนเวลาเริ่มเช็คอินนั้นได้ตั้งแต่ 23.20 น. ไฟล์ทดึกแบบนี้ถนนโล่งจึงกะเวลามาได้ง่ายกว่าช่วงเย็น หรือรถติด ๆ มาถึงก็เข้าขบวนต่อท้ายเตรียมเช็คอิน แยกสัมภาระที่จะโหลดลงเครื่องเรียบร้อย .. จากนั้นก็แลกตังค์ ผ่าน ตม. แล้วก็ไปนั่ง ๆ นอน ๆ ใกล้ ๆ เกทให้มากที่สุด ถึงเวลาจะได้ไม่ต้องเดินไกล…

01-01 01-02 01-03

…อย่างที่บอกครับว่าทริปนี้เราไปแบบสบาย ๆ จึงไม่มีแพลนอะไรมาก หารีวิวอ่านก่อนไปแค่ประมาณหนึ่งเพราะได้ยินมาว่าที่กรุงโซลนั้นระบบคมนาคมรถไฟฟ้านั้นสะดวกสุด ๆ .. เสื้อผ้าพร้อม กล้องพร้อม อินเตอร์เนทที่จะให้เราอัพรูป ติดต่อโน่นนี่นั่นก็พร้อม โดยผมใช้พ็อคเก็ตวายฟายของ Global-Wifi ซึ่งไปรับเครื่องที่สำนักงานที่อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ ชั้น 7 ถ. พระราม 4 มาเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้ว..  

…เรียกว่าทุกอย่างก่อนเดินทางนั้นครบพร้อมแบบสุด ๆ เลย

02

…เราถึงที่สนามบินอินชอนตอนประมาณ 9.40  น. หลังจากผ่าน ตม. รับสัมภาระเรียบร้อยก็จัดแจงเอาเสื้อผ้าจากกระเป๋าที่เตรียมมาใส่เพื่อเตรียมรับลมหนาวกันตั้งแต่ในสนามบินก่อนเลย โดยเส้นทางที่จะเข้าไปยังตัวเมืองนั้นก็ง่ายสุด ๆ โดยเดินไปตามป้ายที่เขียนว่า (Airport Railroad Express หรือ AREX) เดินไปเรื่อย ๆ ตามป้ายไม่หลงแน่นอนจนเจอกับเค้าน์เตอร์ขายตั๋ว ก็บอกเลยว่าเราจะไปแบบ Express Non-Stop หรือถ้าใครอยากประหยัดกว่าก็ไปแบบ All-Stop ก็ได้คือจอดทุกป้าย แต่สำหรับผมกับแฟนเราเลือกแบบ Non-Stop ครับเพราะนาน ๆ มาทีก็ขอเดินทางแบบสบาย ๆ ที่นั่งรถ Non-Stop จะกว้างกว่า มีวายฟายให้เล่น มีที่ให้วางกระเป๋าสะดวกสบายสุด ๆ ดูรายละเอียดเส้นทาง และราคาได้ที่นี่เลย http://www.arex.or.kr/main.do

…จากนั้นเมื่อถึงกรุงโซลแล้วเราก็ตรงดิ่งไปยังที่พักก่อน ซึ่งจองไว้จากเวป www.traveloka.com โดยจองไว้ที่ Bodeum Guesthouse Seoul Tower สาเหตุที่เลือกที่นี้เพราะใกล้กับสถานีเมียงดงซึ่งเป็นแหล่งใจกลางเลยก็ว่าได้ ที่พักก็เป็นแบบเล็ก ๆ ไม่กว้างใหญ่ตามสไตล์เกสท์เฮ้าสท์ แต่ว่าตกแต่งและจัดห้องไว้น่ารักในขนาดกะทัดรัดสำหรับคนตัวไม่ใหญ่อย่างเราก็สบาย

03-1 03-2 03-3 03-4

…ส่วนที่แรกที่เราไปเดินเล่นกันก็คือ “Common Ground” โดยเราขึ้นที่สถานีเมียงดงแล้วไปลงสถานี Konkuk University ทางออก 6 เดินต่อไปอีกนิดก็ถึงแล้ว สังเกตง่าย ๆ เลยกับตู้คอนเทนเนอร์สีฟ้าใหญ่ ๆ ที่เป็นแหล่งเดินเล่น เดินช๊อปปิ้ง ของบรรดาวัยรุ่นและวัยฮิป ๆ ทั้งหลาย

…พื้นที่ก็มีโซนโล่ง ๆ ลานด้านหน้า และในตัวอาคารตัวตู้คอนเทนเนอร์นี่แหละ ที่สร้างให้มีทางเดินเชื่อมไปมาก็แนว ๆ ดี

04-1 04-2 04-3

…ภายในก็มีขายของน่ารัก ๆ เท่ ๆ แนว ๆ เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ข้าวของเครื่องใช้บอกได้คำเดียวว่าเพียบ เราก็เดินเล่นพอโฉบ ๆ ดูอะไร ๆ ที่แปลก ๆ ตาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ซื้อหรอกนะ เพราะราคาก็ไม่ถือว่าถูกสักเท่าไหร่ก็เอาเป็นว่าเดินเปลี่ยนบรรยากาศไปให้ได้ฟิวล์เกาหลีสักหน่อยพอชื่นใจ

05-1 05-2 05-3 05-4 05-5

…ช่วงวันเวลาที่มา 26 ธ.ค. บอกเลยว่าหนาวใช้ได้เลยครับ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณไม่ถึง 5 องศา ระหว่างวัน ส่วนที่หนาวก็ว่าหนาวแล้วบางจังหวะยังแถมด้วยลมที่พัดมาเป็นรอบ ๆ ก็สะท้านได้ง่าย ๆ สำหรับใครที่ขี้หนาว หรือว่าเตรียมเสื้อผ้ามาไม่พอ

…อย่างผมอากาศประมาณนี้ผมก็ใส่กางเกงลองจอห์น + เกงขายาว / เสื้อฮีทเทค + เสื้อยืด 2 + เสื้อหนัง ก็พอเดินได้อยู่ครับ

06-1 06-2 06-3

…ตกค่ำวันแรกก็จัดหนักกับร้านปิ้ง ๆ ต้อนรับมื้อแรกอย่างเป็นทางการเลยที่ร้าน Palsaik Samgyupsal Korean BBQ ร้านนี้จะมี 2 สาขาที่ Sinchon และ Hongdae ส่วนร้านที่เรากินกันคือสาขา Hongdae ครับ (ใครคิดว่าไม่อร่อยผมขอท้า ตามลิ๊งค์ไปโลด https://www.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g294197-d9366216-Reviews-Palsaik_Samgyupsal_Hongdae-Seoul.html  เมนูเด็ดของร้านก็จะเป็นเนื้อหมู 8 แบบ 8 สไตล์ เอามาผัด ๆ ปิ้ง ๆ คลุก ๆ กินกับซุปกิมจิ แล้วมันสุดยอดจริง ๆ .. นี่ขนาดพิมพ์ไปยังอยากย้อนเวลากลับไปกินอีกมาก ๆ

…หลังจากอิ่มมื้อนี้ก็กลับที่พักลงสถานีเมียงดง แล้วเดินไปยังที่พักอีกประมาณ 10 นาที ฝ่าฟันลมหนาวตอนค่ำ ๆ นี่เป็นอะไรที่ทรมานใช้ได้เลย 5555

07-1 07-2 07-3 07-4 07-5 07-6 07-7 07-8

…เช้าวันต่อมาก็หาที่เที่ยวต่อไปโดยจุดมุ่งหมายจะไปที่ “ย่านซัมชองดง : Samcheongdong” ลงสถานี อันกุก (Ankuk) หรือสถานีคยองบกกุง  (Gyeongbokgung) เลือกได้เลย ระหว่างทางก็หาที่เดินเล่นชิว ๆ ไปเรื่อย ๆ ทริปนี้แบบโนแพลนสุด ๆ อาศัยว่าเที่ยวตามแนวทางสถานีรถไฟที่ผ่านแล้วขึ้นมาเจอบรรยากาศเมืองแปลกตามองอะไรก็สวยไปหมด แค่นี้ก็สนุกไปอีกแบบละ

…เรื่องของเรื่องคืออยากถ่ายภาพกับวิวตามถนนหนทางต่าง ๆ ให้สาวเจ้าสักหน่อย เพราะงวดนี้เสื้อผ้าจัดเต็มกะว่าอัพลงโซเชี่ยลแบบกระหน่ำ ซึ่งก็พอดีเลยว่าพ็อคเก็ตวายฟายที่เตรียมมานั้นแรงทั่วโซลจริง ๆ

08-1 08-2 08-3

…เดินเล่นไปเรื่อยสุดท้ายก็มาถึงย่านซัมชองดงจนได้ ถนนตรงนี้สวยดีนะ ยิ่งหากเป็นช่วงซากุระบานคงยิ่งงามขนาดไม่อยากจะจินตนาการว่าจะสวยขนาดไหน แต่ช่วงนี้ใบไม้แทบไม่เหลือสักใบเพราะอากาศหนาวเย็นแห้งไปหมด ยังดีว่าถนนหนทางนั้นสะอาดสะอ้านตามากทำให้ถ่ายรูปออกมาได้แบบสวย ๆ จนถูกใจคุณเธอกันไป

09-1 09-2 09-3 09-4

…จากนั้นก็เดินต่อมาเรื่อย ๆ มาโผล่ที่ “หมู่บ้านบุกชอนฮานก (Bukchon Hanok Village) หมู่บ้านโบราณสไตล์เกาหลีที่โด่งดังตั้งอยู่พระราชวังเคียงบกกุง พระราชวังชางด๊อกกุง ลักษณะก็จะเป็นตรอกเป็นซอยมีถนนเล็ก ๆ ให้เราเดินไปได้เรื่อย ๆ ตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ก็เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปเล่นสนุกดี อีกทั้งความเท่ก็อยู่ที่พื้นที่เป็นลักษณะเนินเขานี่แหละ ทำให้เมื่อเราเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วมองย้อนกลับมาก็จะเห็นวิวของตัวเมืองได้อย่างชัดเจน

10-0 10-1 10-2 10-3 10-4

…ใครที่ชอบถ่ายรูปผมว่าที่หมู่บ้านบุกชอนฮานกนี่ต้องไม่น่าพลาด เพราะเดินเพลิน ๆ ยิ่งยามเย็นนิด ๆ ด้วยแล้วแสงกำลังส่องลงมาสวยงามพอดีเลย แล้วยิ่งบวกกับอากาศดีดีแบบนี้ด้วยอะไร ๆ ก็ยิ่งดียิ่งลงตัวเข้าไปใหญ่

11-1 11-2 11-3

…พอเดินพ้นจากตัวหมู่บ้านโบราณออกมาสักหน่อยฝั่งที่เป็นทางเดินริมถนนก็จะเจอกับทางที่เราสามารถเดินเลาะขึ้นลงไปได้ โดยจะเห็นวิวด้านหน้าได้แบบชัดเจนเคลียร์ ๆ มาก แต่ที่สะท้านสุดคงเป็นลมที่พัดมาเพราะตรงนี้ตำแหน่งค่อนข้างอยู่บนเนินด้านบนแล้ว ทำให้ลมพัดไปมาได้ง่ายกว่าเดินไปนี่ก็เอามือเป่ามือเป่าปากกันไปเลยทีเดียวเพราะเจ้าแรงลมนี่แหละที่ทำมือสั่นปากสั่น 555

12-1 12-2 12-3 12-4

…มาถึงอีกย่านหนึ่งของ “ซัมชองดง” เหมือนกันก็คือถนนด้านล่าง อันนี้ก็เดินเตร็ดเตร่ลงมาเรื่อย ผ่านร้านค้าเสื้อผ้า ขายผลไม้ ขายอุปกรณ์มือถือ หรืออย่างช่วงที่มานี่อยู่ในช่วงหน้าหนาวก็จะเจอกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้ากันหนาวต่าง ๆ ถุงมือ ถุงเท้า หมวกคลุม เรียกว่าถนนทางเดินลงมาด้านล่างนั้นเราเดินกันได้ไม่เบื่อเลย เพราะมีอะไรให้ดูให้แวะซื้อตลอดทาง

…ผมเองไปเจอกับร้านที่ขายของพวกวัยรุ่นเสื้อผ้าแนว ๆ หมวกฮิปสเตอร์ แว่นตา กระเป๋าแฮนเมด.. ก็เสียตังค์ไปจนได้ จากนั้นก็มาเดินเล่นถ่ายรูปเล่นกันริมถนนเพราะแถวนี้วันที่มาค่อนข้างเงียบ ถนนหนทางนั้นโล่งอยู่พอสมควรมีหลายจังหวะให้ถ่ายได้แบบโล่ง ๆ ไม่รกเลย .. จากนั้นก็ตัดสินใจว่าไปหาอะไรอุ่น ๆ หลบหนาวกันดีกว่า .. เพราะยิ่งเย็นเท่าไหร่อากาศมันยิ่งรู้สึกว่าทรมานเข้าไปทู๊กกกที สุดท้ายก็หนีไม่พ้นร้านกาแฟได้เป็นที่พักหลบความหนาว

13-1 13-2 13-3 13-4

…มาถึงอีกสถานที่ยามเย็นที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว คือพาแฟนไปเดินแล้วเธอไม่ค่อยชอบ 555 แต่ทำไมผมชอบก็ไม่รู้ก็คือ “คลองชองเกชอน : Cheonggyecheon Stream” ที่คลองนี้เป็นเหมือนสถานที่พักผ่อนใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้ โดยตามลำคลองก็จะมีสะพานข้ามไปมาอยู่หลายสะพาน.. โดยพื้นที่คลองด้านล่างก็มีคนมาวิ่งออกกำลังกาย นั่งเล่น เดินเล่นกันไปเหมือนสวนสาธารณะไงงั้นเลย

…และนอกเหนือไปจากที่เราจะเดินอยู่แต่ด้านล่างแล้ว บริเวณสองข้างฝั่งถนนด้านบนก็ยังมีร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีบาร์ให้นั่งดื่มนั่งดริ๊งค์เพลินไปกับบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นตอนเย็นค่ำ หรือกลางวันก็สามารถมาชิวได้ตลอดเลย

14-1 14-2 14-3 14-4

…มาถึงสถานที่ลำดับสุดท้ายที่เราไปกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เพราะมาถึงโซลแต่ถ้าไม่มาที่นี่กลับไปคงได้โดนแซวแน่ ๆ กับ “หอคอยกรุงโซล : N’Seoul Tower” ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ และจุดชมวิวยอดนิยมอันดับ 1 ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้รวมทั้งยังได้เป็น 1 ใน 18 หอคอยที่สูงที่สุดในโลกให้คนเกาหลีได้ภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน ซึ่งการที่เราจะมาขึ้นไปยังโซลทาวเวอร์นั้นก็ขึ้นได้หลายทาง อย่างของผมที่มานั้นตัวที่พัก Bodeum Guesthouse นั้นอยู่ติดกับทางขึ้นที่เป็นลิฟท์เพื่อขึ้นไปต่อเคเบิ้ลคาร์ (Namsan Cable Car) ได้ใกล้มากดังนั้นจึงไม่ต้องคิดมากขึ้นตรงนี้เลย

15-1 15-2 15-3

…ด้านบนวันนั้นที่ผมมาแม้จะอยู่ในช่วงใกล้สิ้นปีแล้วแต่ยังตรงกับช่วงวันธรรมดาเลยทำให้คนไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ เดินเล่นหามุมสงบ ๆ ถ่ายรูปได้แบบโล่ง ๆ ง่าย ๆ ได้หลายมุมเลย .. ถ่ายรูปสนุกดีครับอากาศหนาวเย็นมือชาเพราะลมพัดตลอด แม้แดดจะแรงแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายหนาวสักเท่าไหร่ก็เพราะเจ้าลมนี่แหละที่พัดกระหน่ำมาตลอด

16-1 16-2 16-3 16-4

…และก็พลาดไม่ได้กับการคล้องกุญแจแห่งรัก ตัวผมกับสาวเจ้าไม่ได้คล้องหรอกครับ แค่แวะมาถ่ายรูปเล่นกัน บริเวณทางเดินชมวิวด้านบนโซลทาวเวอร์ที่เป็นลานกว้างนั้น มีมุมที่เราสามารถมองเห็นเมืองโซลได้ชัด ๆ อยู่หลายมุมเหมือนกัน ก็เดินไปเรื่อย ๆ ย้ายมุมนั้นมามุมนี้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

…ส่วนร้านค้าร้านอาหารก็มีบริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านบน เผื่อใครหิวหรือเกิดอยากกินอะไรนิดอะไรหน่อยขึ้นมาก็ไม่ต้องกังวล

17-1 17-2 17-3 17-4

…มาเที่ยวเกาหลีใต้ครั้งนี้ของผมเป็นครั้งแรกก็รู้สึกว่ากรุงโซลนี้เที่ยวง่ายดีเพราะระบบคมนาคมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินต่าง ๆ นั้นถือว่าสะดวกมาก ขอแค่รู้ว่าอยากไปไหนแล้วต้องลงสถานีไหนทางออกเท่าไหร่ จากนั้นหากงง ๆ สงสัยก็ถาม ๆ คนเกาหลีเอาก็พอพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง เรียกว่าเที่ยวง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะจากตอนแรกที่เห็นเส้นทางเดินรถไฟบ้านเค้าแล้วตาลายยิ่งกว่าใยแมงมุม 18 สายมาขดรวมกัน

…ส่วนที่เที่ยวที่เห็นไปทั้งหมดข้างต้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือผมและแฟนก็ใช้เวลาไปกับการเดินหาของกินตอนค่ำ ๆ บริเวณเมียงดง และระหว่างวันเราก็เดินเล่นเตร็ดเตร่มั่ว ๆ ไปเรื่อย อาจไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน แต่กับวันพักผ่อนที่เปลี่ยนบรรยากาศบ้านเมืองมาเที่ยวแบบโนแพลนแบบนี้ก็สนุกดีไม่น้อย

18-1 18-2 18-3

…สุดท้ายก็หมดเวลาแห่งวันพักผ่อนแบบหนาว ๆ ก็หวังไว้คาดไว้ว่าสักวันอาจจะได้กลับมาอีก เพราะรอบนี้เตรียมตัวมาน้อยอาศัยเที่ยวแบบชิว ๆ ซึ่งแม้จะเน้นพักผ่อน แต่กับอุปกรณ์กล้องผมจัดเต็มซึ่งได้รับการอุปถัมภ์กล้องจาก Nikon Thailand ที่ให้ได้นำ Nikon D750 ที่ถ่ายเสร็จปุ๊บส่งต่อวายฟายโหลดลงมือถือเรียกว่าสะดวกสุด ๆ ซึ่งถือว่าช่วยในการอัพภาพเชื่อมต่อลงมือถือได้เร็วจริง ๆ ส่วนอินเตอร์เนทในการเข้าถึงนั้นก็ไม่ต้องง้อตามร้านกาแฟ หรือร้านค้าที่ไหนเปิดพ็อคเก็ตวายฟายที่เช่ามาจาก Global-Wifi นั่นแหละทั้งวันยาว ๆ ไป เปิดเนทอัพรูปอวดเพื่อน ๆ ลงเฟซลงไอจีได้รวดเร็วฉับไวแรงกระฉูดทั่วทุกที่ที่ไปในกรุงโซลจริง ๆ #NikonThailand #Global-Wifi #SamuraiWifi #Globalwifi

…และสุดท้ายก็คือขอขอบคุณสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ที่จัดกิจกรรมขึ้นมาทาง www.airmosphere.net ทำให้ผมได้ตั๋วรางวัลเดินทางกรุงเทพ-อินชอน 2 ที่นั่งมา.. จึงทำให้ทริปนี้ผมได้มาเยือนเกาหลีเป็นครั้งแรกในชีวิต .. และหวังว่าอีกไม่นานคงจะได้กลับมาเกาหลีอีกแน่ ๆ ซารางเฮโย… ^^

19-1 19-2 19-3 19-4

 

Facebook Comments
Please follow and like us:
20