…เมื่อพูดถึงคำว่า “เบตง” เราจะนึกถึงอะไรกัน.. ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ๆๆ

…เชื่อเลยว่า 90 ใน 100 ต้องมี “ข้าวมันไก่เบตง” ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ผิดแต่อัลบั้มนี้ เที่ยวผ่านเลนส์ / Forzanu Foto จะขอนำเสนอเบตงในอีกหลากหลายมุมที่หลาย ๆ คนอาจยังไม่เคยรู้ หรืออาจไม่รู้จักดีพอ ให้รู้ให้เห็นกันว่าเมืองสุดชายแดนไทย อ.เบตง จ.ยะลา นั้นมีอะไรอีกมากมายที่น่าเย้ายวน และอยากชักชวนให้เราคนไทยเดินทางไปเที่ยวกันเยอะ ๆ…

…”เบตง” เป็นเมืองเล็ก ๆ ติดชายแดนไทย-มาเลย์ เรียกว่าใต้สุดแดนสยามเลยก็ว่าได้ ความเท่ความเจ๋งของอำเภอเบตงก็คือ มีพื้นที่ตั้งล้อมรอบด้วยหุบเขาลักษณะเหมือนแอ่งกระทะ.. มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี (แต่บางช่วงก็อาจมีร้อนบ้างตามสภาพอากาศทุกวันนี้) … ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียมาเที่ยวที่เมืองนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง แล้วเขามาทำอะไรกันล่ะ… ผมจะให้ข้อมูลคร่าว ๆ ไว้ประมาณหนึ่งตามข้างล่างนี้แล้วที่เหลือก็คือรอให้ใคร ๆ ที่อยากมาเดินทางมากันดูนะ แล้วจะรู้ว่า #เบตงยิ่งกว่าโอเค เป็นไหน ๆ

การเดินทาง

– นั่งเครื่องมาลงสนามบินหาดใหญ่ หรือเริ่มจากหาดใหญ่แล้วต่อบริการรถตู้สามารถติดต่อได้ที่ “เบตง โพธิ์ทองทัวร์” เริ่มที่ขนส่ง(เปิดท้าย)ตรงข้ามคิวรถตรัง(ล็อค 19) วิ่งเส้นทางขาไปหาดใหญ่-เบตง เบอร์โทร 074-424446, 074-424460, 081-9632168 วิ่งเส้นทางประเทศไทยไม่เข้ามาเลย์ / ขากลับเบตง-หาดใหญ่่ 073-230193, 081-9905697 หรืออีกเจ้า “เบตงทัวร์” เจ้านี้มีทั้งรถตู้ และรถเก๋งลองติดต่อดูได้ 086-9627575 เจ้านี้จะมีขับเส้นทางเส้นประเทศไทยถึงเบตง แล้วก็ขับอีกเส้นทางโดยเข้าทางมาเลย์แล้วมาที่เบตง ..

————————————————-

แล้วเข้ามาเลย์ กับวิ่งผ่านประเทศไทยบ้านเราเองต่างกันอย่างไร

…วิ่งผ่านมาเลย์แล้ววกเข้าเบตง เส้นทางจะเป็นเส้นตรงกว่านั่งรถตู้สบายกว่าทางไม่หงิกงอเท่าไหร่ .. แต่ข้อแม้คือเราต้องมีพาสปอร์ตติดตัวไปด้วยเพื่อทำเรื่องผ่านแดนกับเจ้าหน้าที่ตอนเข้ามาเลย์ แต่ไม่เสียเวลาหรอกครับ แป๊บเดียวเอง..
…ส่วนถ้าวิ่งในประเทศเราเอง แม้เส้นทางจะหงิกงอเวียนหัวไปบ้างแต่ข้อดีคือ อยากแวะตรงไหนถ่ายรูปก็ยังแวะได้ แต่ถ้าเป็นทางมาเลย์อยู่บนรถวิวชมวิวได้อย่างเดียว… ใครเวียนหัวง่ายแนะนำไปทางมาเลย์ นั่งสบายตัวกว่าครับ

————————————————-

ที่พักในเบตง

…จากเท่าที่ไปมา 4 วันก็เห็นโรงแรมเยอะอยู่นะครับ มีทั้งแบบที่เปิดมานานคณะทัวร์จีน ทัวร์มาเลย์ไปเที่ยวไปนอนก็เยอะ รวมทั้งแบบใหม่ ๆ ชิค ๆ แนว ๆ ก็มีตอบรับลูกค้าหลากหลาย ดังนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องการพักผ่อนจ้ะ…

————————————————–

ของกินที่เบตง

…”เพียบ” สะกดแบบเน้น ๆ ให้เลยเอาแค่ข้าวมันไก่เบตงก็หรอยจังฮู้แล้ว ไหนจะมีอาหารพื้นเมืองท้องถิ่นอีก ที่ขึ้นชื่อตามร้านอาหารก็พวก กบทอดมาแบบตัวใหญ่ ๆ กล้ามแน่น ๆ เหมือนกบเตรียมไปแข่งโอลิมปิค.. แล้วก็อาหารทะเลต่าง ๆ ก็มี หรือจะเป็นปลานิลที่มีเลี้ยงกันมากที่นี่ก็เป็นอาหารบนโต๊ะอยู่หลายร้าน.. เอาเป็นว่าในรีวิวนี้มีภาพประกอบไปตัดสินใจดูภาพกันก่อนก็ได้

—————————————————

การเดินทางท่องเที่ยวในเบตง

…เมื่อมาถึงที่พักแล้วให้สอบถามจากโรงแรม หรือที่พักที่เรานอนก็ได้ว่าจะใช้บริการรถตู้ หรือมีแบบไหนบ้าง .. ผมแนะนำว่ามากันหลาย ๆ คนแล้วเช่ารถตู้ก็ดีนะครับ สะดวกสุด ประหยัดสุด

—————————————————

สถานที่ท่องเที่ยว และจุดที่น่าสนใจ

► “ตัวเมืองเบตง” – เดินเล่นได้ทั้งวันมี Street Art ที่กำลังฮิตอยู่ตามเมืองต่าง ๆ บ้านเราที่นี่ก็มีนะ เยอะด้วย.. ต้องเก็บให้ครบเพื่อความภาคภูมิใจของชีวิต
► “หอนาฬิกา” – อยู่กลางเมืองเลยใครมาก็ต้องถ่าย จะเช้าจะเย็นจะค่ำโดดเด่นเป็นสง่า ระวังอย่างเดียว “ขี้นก” 555 อันนี้ไฮไลท์นะครับเพราะจะมีนกนางแอ่นเกาะอยู่สายไฟตลอดเป็นพัน ๆ ตัว.. ถ่ายรูปไปต้องหลบกันไปสนุกมาก แต่ต้องจัด
► “อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์” – อันนี้เป็นอุโมงค์ถนน สวยสุดต้องพลบค่ำ
► “บ่อน้ำร้อนเบตง” – เป็นเหมือนจุดพักผ่อนมานั่งเล่น แช่น้ำ ชาวบ้านบางรายถึงขนาดมาอาบน้ำจริงจังเลยก็มี ต้องไปนะ น่ารักดีเชื่อเราสิ (แต่อัลบั้มรีวิวไม่มีภาพนี้นะครับ พอดีแอดมินตื่นไม่ทันต้องขออภัย) แต่เห็นภาพจากกล้องที่ไปมาน่ารักจริง
► “สวนดอกไม้เมืองหนาว” – หนึ่งเดียวแดนใต้เลยก็ว่าได้ที่มีสวนดอกไม้เมืองหนาว (แต่อัลบั้มรีวิวไม่มีภาพสวนดอกไม้นะครับ พอดีแอดมินตื่นไม่ทันต้องขออภัย) แต่ไปขอดูภาพคนที่ไปมาสวยจริงครับ
► “อุโมงค์ปิยะมิตร และชมต้นไม้ยักษ์พันปี” – เป็นอุโมงค์ที่สร้างขึ้นเพื่อหลบภัยแบบยาว ๆ เดินเมื่อยแบบจริงจัง หรือจะเลือกเดินแบบรอบเล็ก ๆ แล้วไปชมต้นไม้ยักษ์พันปีก็คุ้มแล้ว
► “กิจกรรมล่องแก่ง” – อีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจเมื่อมาที่นี่ สนุกสนานสรวลเสเฮฮาสำหรับคนรักกิจกรรมแบบลุย ๆ พายเรือคายัคล่องไปตามเส้นทางลำน้ำ.. เตรียมตัวให้ดีความมันส์แบบเพลิน ๆ ฮา ๆ รออยู่แน่นอน
► “น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.๙” – น้ำตกสูงใหญ่ที่ถ่ายภาพแล้วตัวเราเหลือนิดเดียว กับลำธารชุ่มฉ่ำก็เป็นอีกที่ที่ควรแวะนะ .. น้ำตกใหญ่จริง
► “ผืนป่าฮาลาบาลา” – นอกจากจะฟินไปกับการนั่งเรือหางยาวแล้วให้ลมกระแทกหน้าเย็น ๆ สบาย ๆ แล้วหากมาถูกช่วงเราจะได้เจอกับ ผ่าม พาม พ้ามมม … ช่วงต้นปี ผืนป่าเปลี่ยนสี ใบไม้เปลี่ยนสีราวกลางเดือนปลายเดือนกุมภา – ประมาณมีนาคม ..โคตรฟินครับต้องใช้คำนี้เพราะแอดมินเห็นมาเองกับตา ช่วงฤดูน้ำลดเมื่อใดก็ตามที่ปล่อยน้ำออกจากเขื่อน ปริมาณน้ำลดลง เราจะสามารถเห็นเหล่าฝูงกระทิงลงมากินหญ้าที่ขึ้นริมลำธารหนองน้ำต่าง ๆ ช่วงกลางปีสิงหา – กันยา มาทำตามความใฝ่ฝันของคนรักธรรมชาติที่อยากเห็นนกเงือก.. สัตว์ป่าที่ว่าเป็นตัววัดมาตรวัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า.. บินเหนือท้องฟ้าเป็นร้อย ๆ ตัว.. (แอดมินอยากมาอีกก็ช่วงนี้แหละ ใครจะมาด้วยกันมั้ย หลังไมค์เลยจัดทริปกัน)
► “จุดชมวิวทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต” อันนี้แอดมินบอกก่อนว่าไม่ได้ไป ได้แต่เห็นลิบ ๆ แต่เท่าที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ก็คือต้องไปนอนเต๊นท์ด้านบนนอนดูดาวตื่นมาดูทะเลหมอกแบบ 360 องศา
► “จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” ส่วนจุดชมวิวอัยเยอร์เวงนี้รูปเพียบครับเพราะไปมาแล๊ววว เห็นเองกับตาขอบอกว่าสวยมาก เพราะภูเขาทิวเขาเมื่อมองออกไปเราจะเห็นเป็นชั้น ๆ เรียงลำดับกันไปโอยงามแท้หนอ… และที่สำคัญใครที่รักความสะดวกสบายขี้เกียจเดิน จุดชมวิวนี้อัยเยอร์เวงนี้เหมาะมากเพราะรถแล่นถึงด้านบนชมวิวกันเลย

—————————————————

ความปลอดภัย

…ให้มั่นใจได้ครับว่าที่นี่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวแน่นอนเพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่อย่างที่เราเข้าใจกัน แต่เพื่อความอุ่นใจของชาวบ้านที่นี่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยกันสอดส่องอยู่ทุกเวลา แต่เท่าที่จากที่แอดมินเดินทางไปมากับกลุ่มคณะเพื่อน ๆ ด้วยกันทุกคนบอกเหมือนกันหมดว่ามั่นใจมาก เพราะเราสามารถเดินเล่นในตัวเมืองถ่ายรูปเล่นได้อย่างสบายใจ หรือไม่ว่าจะไปตรงไหนก็มีผู้คนชาวบ้านใช้ชีวิตกันตามปกติ .. คือเท่าที่เห็นทั้งทัวร์จีน ทัวร์มาเลย์นี่มาเที่ยวกันเยอะมาก .. คนบ้านเค้ายังมาเที่ยวกันเลย ดังนั้นบ้านเราเองต้องมาครับ..

————————————————-

…คิดว่าคงหมดแล้ว(มั้งนะ) 555 เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ .. ใครอยากรู้เรื่องราวอะไรต่าง ๆ ในเบตง หรือจะแค่อยากสอบถามข้อมูลสามารถติดต่อได้ที่ “โกเอ็กซ์ /
061-654-1519” ได้เลย (โกเอ็กซ์คือชายหนุ่มแห่งเบตง ใจดีที่พร้อมประสานงาน และยินดีให้ข้อมูลพวกเรา) หรือใครอยากดูข้อมูลเบื้่องต้นอยากรู้เรื่องราวเบตงเกริ่น ๆ ไว้ก่อนก็สามารถติดตามได้ที่เพจ เบตงใต้สุดสยาม OK Betong กันได้เลย…

…อ้อ !! อีกเรื่องสำคัญอีกปีสองสามปีข้างหน้า เบตงจะมีสนามบินบินตรงมาที่นี่.. แต่อย่ารอถึงวันนั้นเลยเชื่อผมสิ.. นกตัวแรกที่ตื่นก่อนก็ได้เลือกอะไร ๆ ก่อน.. รีบมาเถอะครับมาตอนนี้มาเที่ยวมาดูแลมารักษากันตั้งแต่ยังสมบูรณ์ ๆ แบบนี้ให้อยู่ต่อไปอีกนาน ๆ

…ปิดท้ายใครอยากชวนใคร อยากไปนั่งเรือดูใบไม้เปลี่ยนสี ปีนี้อาจจวนเจียนก็แพลนไว้ปีหน้ากันได้… แท็กเพื่อน แท็กแฟน แชร์กันได้ตามสบายเลย.. หรือใครจะชวนแอดมินไปด้วยก็ได้นะครับ ถ้าไม่ติดคิวอะไรจะได้เดินทางไปพร้อมกัน.. ^^ #เบตงยิ่งกว่าโอเค #เที่ยวผ่านเลนส์ #ForzanuFoto #เบตง

ปล. อัลบั้มนี้ภาพอยู่ในช่วงการเดินทางระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมานี้นะครับ

… “เบตง” อาจเป็นเมืองที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ หรือไม่ค่อยจะได้มีใครเดินทางไป แต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าได้มาแล้วจะรู้ว่า #เบตงยิ่งกว่าโอเค จริง ๆ

…จากภาพบรรยากาศของธรรมชาติที่ล้อมรอบเมืองหลังฝนตกได้ไม่นานก็เกิดไอหมอกทะเลหมอกปกคลุมทิวเขา และตัวเมือง และผู้คนในเมือง

เก็บท้องฟ้าเบื้องบน ไว้ให้เป็นเหมือนเก่า..

…จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง.. กับภาพของแสงสีทองที่ทะลุผ่านผืนเมฆ คุ้มค่ากับการรอคอย..

…ผืนป่าฮาลาบาลา.. ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ในช่วงราวปลายเดือนกุมภา – มีนา.. เราจะได้พบกับพืชพันธุ์และใบไม้เปลี่ยนสี..

…ลองจินตนาการว่าเราได้นั่งเรือหางยาวแล้วแล่นไปตามลำน้ำท่ามกลางผืนป่าเปลี่ยนสีสิ.. มันจะสุดยอดขนาดไหนที่เมืองไทยเราก็มีแบบนี้

…พลังแห่งวัยเยาว์ที่หวังว่าจะอยู่อุ้มชูเมืองเบตงให้เป็นเมืองน่ารัก อบอุ่นไปอีกนาน ๆ

…ภาพนี้ผมถ่ายตอนเย็น ๆ ประมาณเกือบ ๆ 6 โมงหลังฝนตกฝนพรำไปเมื่อชัวโมงก่อนหน้านี้.. คือฝนไม่ได้ตกหนักถล่มทลายนะ แต่แค่พรำ ๆ ไม่ช้าไม่นานไอหมอกก็เกิด...หลังจากไอหมอกเกิดความสุขก็เกิดตามมา..

…Street Art เท่ ๆ แต่คนไม่ค่อยเท่ 555 …ที่นี่มี Street Art อยู่หลายจุด หาเดินกันให้ทั่วนะครับ.. เพราะผมเองยังเดินไม่ทั่วเลย T_T

…♪ ยามเย็น..เราพากันเดินเล่น ♪

…เดินเล่นได้ทั่วเมืองเลยฮะสำหรับเมืองเบตง.. ยิ่งบริเวณชุมชนต่าง ๆ ถ้าใครชอบถ่ายภาพแนวสตรีทวิถีชุมชน.. ต้องชอบแน่นอน

…บรรยากาศตัวเมืองที่มีทั้งร้านกาแฟ โรงแรม ร้านขายข้าว ร้านขายของ ทุกอย่างอะไรที่เมืองใหญ่ ๆ มีที่นี่ก็มี..ไม่มีอย่างเดียว “ความวุ่นวาย”…

…ความคลาสสิคของหอนาฬิกานี้ผมให้อยู่ที่ปริมาณของสายไฟ 5555.. เลี่ยงไม่ได้ก็จับมาอยู่ในภาพให้เยอะ ๆ ไปเลย..เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คพ้อยท์ที่ใครมาก็ต้องมีรูปกลับไ

…บรรยากาศก็อย่างที่เห็นนะครับในส่วนของถนนหนทางตามตรอกซอกซอยก็เหมือนกับเมืองตามจังหวัดต่าง ๆ ที่จะมีร้านค้า ร้านขาย มีรถเข็นขายของ มีรถจอดเยอะแยะ..มาเดินเล่นได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ

…ตาลายกันไปข้าง 555 กับสตรีทอาร์ท..

…ใครเก็บภาพสตรีทอาร์ทครบเอาไปแลกเก้าอี้ที่เซเว่นได้ เอ้ยยยย !!! ไม่ใช่.. ไม่เกี่ยวกัน… แลกได้แค่ความเท่ ความภาคภูมิใจ ใครจะมาจัดมิชชั่นแข่งกันถ่ายให้ครบก่อนเวลา ใครแพ้เลี้ยงข้าวมันไก่เบตง…ก็ดีนะ

…มุมสงบ ๆ ของบรรยากาศชุมชนก็มี..บ้านเก่าบ้านใหม่สลับกันไป.. ที่นี่อยู่กันแบบสะอาด ๆ เราไปก็อย่าทำอะไรเลอะเทอะเป็นพอจ้ะ

…หอนาฬิกาสวย ๆ โปรดสังเกตุที่สายไฟดีดีจะเห็นประชากรนกนางแอ่นยืนชมวิวแสงสีเสียง และให้กำลังใจตากล้องทั้งหลายด้วยการถ่ายรูปยังไงไม่ให้โดนขี้นก…อีกหนึ่งมิชชั่นที่ความสนุก มาพร้อมความระทึก.. ทีมเที่ยวของผมมากัน 20 คน .. เจอนกนางแอ่นปล่อยบอมบ์ไป 2 คน.. 5555

…อุโมงค์นี้จะสวยต้องช่วงพลบค่ำ.. อย่าลืมมาถ่ายกันนะ อยู่ติด ๆ กันใกล้กันกับหอนาฬิกาน่ะแหละ

…โรงแรมที่พักที่แนะนำโรงแรมนี้เพราะทัวร์จีน ทัวร์มาเลย์มานอนกันเยอะ 555..

…หาใช่เหตุผลหลักไม่.. เหตุผลคือถ้าใครอยากเห็นมุมมองเมืองเบตงในแบบสูง ๆ แนะนำว่าชั้นตั้งแต่ 15 ขึ้นไปถ่ายจากหน้าต่างห้องนอนได้เลย เห็นแน่นอน.. ..พิกัดโรงแรม “แกรนด์ แมนดาริน เบตง”..

…ภาพเปิดอัลบั้มก็ถ่ายจากห้องนอนที่ผมนอนนี่แหละครับ ปล. ใครชอบพลังของฝักบัวแบบแรง ๆ ที่นี่ไหลประหนึ่งอยู่ข้างคลองประปาต่อสายตรงมาเลย.. แรงสะใจดีจริง ๆ

…ผ่านไปกับบรรยากาศเมือง ๆ มาเริ่มเข้าโหมดอื่นกันบ้าง..เริ่มจากแอดเวนเจอร์โหมด.. นี่คือล่องแก่งความลึกแม้จะแค่ระดับเข่า แต่ความมันส์เทียบได้ 8/10…

…ข้อดีของล่องแก่งช่วงน้ำตื้นอย่างช่วงที่ผมเดินทางมานี้ก็คือ ปริมาณน้ำไม่เยอะมากพายยังไงก็ไม่จม..

…แต่ข้อควรที่ต้องระวังหน่อยก็คือ หากเรือล่มนั้น เราอาจจะกระแทกหรือเจอพื้นหินได้ง่ายขึ้น .. ดังนั้นก็ระวัง ๆ กันครับ แต่จากสมาชิกทั้งหมดที่ลงเล่น 17 คน.. ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีแต่รองเท้าหายไปกับสายน้ำ..เท่านั้นแล

… “น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.๙” .. น้ำตกขนาดสูงใหญ่ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี.. ขนาดช่วงนี้มีนาคมที่ผมมาชาวบ้านยังบอกนี่ถือว่าน้ำน้อยแล้วนะ..

…คือน้อยเนี่ยเข้าไปใกล้ ๆ แต่แรงลม แรงน้ำก็ยังพัดเอาซะใบไม้ปลิวว่อนเลยนะ.. ดังนั้นถ้าช่วงน้ำเยอะละอองน้ำคงพัดแรงกว่านี้แน่นอน

…แต่ที่แน่ ๆ ดูความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติสิ..ว่าทำให้เราเหลือตัวเล็กแค่ไหน

…”อุโมงค์ปิยะมิตร”.. ร่องรอยการสู้รบของคอมมิวนิสต์มาลายาที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อหลบภัยทางอากาศ และสะสมสเบียงในอดีต

…ด้านหน้าทางเข้านี่สร้างไว้แบบฟิวล์จีนมาก ตอนแรกที่รถจอดปุ๊บคิดว่ามาเมืองจีน.. ใครมาเบตงอย่าลืมแวะมากันนะ ทางเดินจะมีหลายทางระยะทางความยาวเส้นทางอุโมงค์ประมาณ 1 กิโลเมตร.. กว้างประมาณ 5-6 ฟุต…ทางเข้า-ออก 9 ทาง.. เราสามารถเลือกเดินได้จะไปทางไหน แต่แน่ ๆ อย่าลืมมาถ่ายรูปคู่กับต้นไม้พันปีนะจ๊ะ…

…น้ำพริกไตปลาแห้ง..
…แกงส้มปลานิลดอกดาหลา
…ราดหน้าหม้อดินปลานิลทอดกรอบ
…ไก่สับ
…ปลากือเลาะทอดราดซีอิ๊ว

…พิกัด “ร้านบ้านคุณชาย”…

…เกี๊ยวปลาทอด
…ข้าวผัดปลา
…ปลานิลทอดราดสุมนไพร
…ไข่เจียวปลาฟู

…พิกัด https://www.facebook.com/NoppadolFishing/

…อีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกใจเป็นที่สุด..นั่นคือการนั่งเฉย ๆ ปล่อยให้ลมกระแทกหน้า.. พร้อมเบิ่งสายตาชมความงามแห่งธรรมชาติแบบ 360 องศา.. ณ ผืนป่าฮาลาบาลา

…เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา เป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศ เป็นผืนป่าที่ประกอบไปด้วยผืนป่าสองผืน คือ ป่าฮาลา ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และ ป่าบาลา ในพื้นที่อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส แม้ป่าทั้งสองผืนนี้จะไม่ได้ติดเป็นป่าผืนเดียวกัน แต่ทว่าในปี พ.ศ. 2539 ได้มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าร่วมกัน

…โดยคำว่า “บาลา” มาจากคำว่า “บาละห์” ที่แปลว่า “หลุด” หรือ “ปล่อย” มีที่มาจากช้างเชือกหนึ่งที่หนีเข้าป่าฝั่งอำเภอแว้ง และคำว่า “ฮาลา” หมายถึง “อพยพ” หมายถึง ผู้คนที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากตัวเมืองปัตตานีในอดีต จนมาอาศัยอยู่เป็นชุมชนรอบ ๆ ชายป่า โดยป่าแห่งนี้อาจเรียกชื่อสลับกันได้ว่า บาลา-ฮาลา โดยผู้คนที่อยู่ในอำเภอแว้งจะเรียกว่า “บาลา-ฮาลา” แต่คนที่อาศัยในอำเภอเบตงจะเรียกว่า “ฮาลา-บาลา”

…เมื่อแล่นไปตามเกาะแก่งตามผืนน้ำแล้วก็ยังมีช่วงเวลาเดินขึ้นฝั่งเพื่อชม ต้นไม้ยักษ์ที่อยู่กลางป่าใหญ่ด้วย

…ดีใจที่สุด คือการได้มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งอันยิ่งใหญ่..

…เสียใจที่สุด คือไอ้พวกที่มันเขียนสลักชื่อ สลักสารพัดสารเพลงบนต้นไม้.. แค่เห็นก็โมโหแล้วอ่ะ ไม่รู้จะหาคำไหนมาด่า.. ใครได้มาขอร้องเถิดว่าอย่าทำอย่างนี้กันเลยเนาะ.. ถ่ายรูปออกมาไม่่สวยก็แย่แล้วยังไปทำลายธรรมชาติอีก.. เห้ออออ

…เราจะพบเห็นใบไม้เปลี่ยนสีต้นไม้สวย ๆ แบบนี้ได้ในช่วงราวเดือนกุมภาอาจจะสักช่วงปลาย ๆ เดือนไปจนถึงราวเดือนมีนาคมอย่างช่วงกลางเดือนที่ผมได้มา…

…จากที่นั่งเรือแล่นไปมาหลายชั่วโมงก็พอเดาได้ว่านี่อยู่ในช่วงปลาย ๆ แล้วยังถือว่าโชคดีที่ได้มาเห็น.. แล้วลองหลับตาจินตนาการดูกันว่าถ้าเป็นสัก 70 – 100% ..ของผืนป่าที่มีใบไม้สีสันแบบนี้ปกคลุมไปทั่ว.. มันจะงดงามขนาดไหน

…เพราะเราก็จะมีความสุขความสนุกไปกับการเปลี่ยนมุมมองด้วยเลนส์ต่าง ๆ ของเรา .. แต่ไม่ว่าจะกล้องเล็กกล้องใหญ่ก็มีความสุขไม่แพ้กันหรอก เชื่อสิ…เซ็ทนี้ผมใช้ 50 mm กับ 85 mm แค่สองตัวไม่มีเทเลไกลกว่านี้แล้วยังออกมาสวยขนาดนี้เลย ..ไม่ได้จะชมว่าถ่ายสวยนะ แต่ของเค้าสวยจริง

…ปริมาณน้ำที่สูงขึ้นจนท่วมล้นศาลาที่เคยเป็นที่พัก.. รอวันน้ำแห้ง .. เมื่อไหร่ที่ถึงฤดูน้ำลด.. บริเวณทุ่งหญ้าที่เคยอยู่ใต้น้ำก็จะกลายเป็นแหล่งอาหารหากินของเหล่ากระทิง…เป็นระบบของธรรมชาติที่ลงตัวดีแท้

…ตัดสลับจากผืนป่าคู่ผืนน้ำมาชมผืนป่าคู่ผืนฟ้ากันบ้าง… “ทะเลหมอก ณ จุดชมวิวอัยเยอร์เวง”…เป็นจุดชมวิวที่เหมาะสบายมาก.. เพราะไม่ต้องเดินอะไรให้มากมาย รถสามารถขับมาจอดได้ถึงด้านบนแล้วเดินต่ออีกนิดก็ชมความงามระดับ 5 ดาวได้เลย

…คือวันที่มามีหมอกปกคลุมบ้างบางจังหวะ.. ข้อดีของหมอกไม่เยอะก็คือเราจะได้เห็นทิวเขาขุนเขาต่าง ๆ ออกไปไกลจนลิบตา..แต่ถ้าหมอกเยอะไปก็อาจมีแต่หมอกไม่เห็นอะไรเลย.. ก็อยู่ที่ใครจะชอบแบบไหน .. แต่ผมชอบแบบนี้แหละ

…เปิดตา เปิดใจ..ให้กับเบตงกันนะ.. แล้วจะรู้ว่าคำที่ว่า “โอเคเบตง” นั้นตอนนี้เราอาจเข้าใจใหม่ได้ว่า “เบตงยิ่งกว่าโอเค” เสียอีก…

Facebook Comments
Please follow and like us:
20