🇮🇹 One Night in Venice 🇮🇹

…เวนิส…ชื่อนี้เคยได้ยินตั้งแต่เด็ก ๆ เรียนประถมรู้แต่ว่าตอนเด็ก ๆ เรียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของบ้านเราก็จะมีเรื่องแม่น้ำเจ้าพระยา และก็จะได้ยินประโยคต่อเนื่องมาว่าเจ้าพระยาคือเวนิสแห่งสยาม ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากมายก็รู้แค่ว่าเวนิสเป็นเมืองเมืองหนึ่งที่อยู่ประเทศอิตาลี และมีแม่น้ำ.. ก็รู้ไว้แค่นั้น.. จนโตมาที่นี่ก็ยังไกลเกินฝันเกินเอื้อม และวันหนึ่งด้วยความสามารถบวกกับหน้าที่การงานก็ทำให้มีโอกาสได้มาที่นี่เข้าจนได้.. ซึ่งก็ต้องขอบคุณโอกาสที่ได้มาจากที่นี่เลย We Are Wanderlust Travel บ.จัดนำเที่ยวที่พากรุ๊ปลูกค้าไปยังประเทศสวย ๆ เมืองสวย ๆ มากมายหลายหลาก.. ใครสนใจโปรแกรมดีดีไปติดตามกันได้ที่เพจได้เลย https://www.facebook.com/Wearewanderlusttravel/ซึ่งผมเองก็ได้ร่วมการเดินทางครั้งนี้ไปในฐานะช่างภาพที่คอยถ่ายภาพลูกค้าประจำกรุ๊ปให้ได้ภาพสวย ๆ กลับมากันไป..

…การเดินทางครั้งนี้เป็นโปรแกรมยาวถึง 11 วันด้วยกัน โดยเมือง และสถานที่หลัก ๆ ที่ไปก็มีประมาณนี้ Venice – Dolomites National Park – Florence – San Gimignano – Siena – Tuscany – Rome – Naples – Capri – Amalfi coast เรียกว่าจุใจกันเลย… ซึ่งคอนเท้นท์นี้ผมแยกออกมาแค่ที่เวนิสก่อนเป็นลำดับแรก…

…เดินทางจากกรุงเทพสิ้นสุดผ่านพ้นหลายชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Airport Marco Polo (สนามบินที่ใกล้เวนิสมากที่สุด) เมื่อรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาลงเรือเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองแสนสวยนี้ได้ทันที สะดวก สบาย และรวดเร็วมาก เพราะออกจากสนามบินก็เดินเท้าพร้อมต่อเรือได้ทันที

…”เวนิส” คือคำที่เรียกในภาษาอังกฤษ ส่วนคำว่า “เวเนเซีย(Venezia)” นั้นเป็นภาษาอิตาเลียน.. เป็นเมืองหลักที่อยู่ในแคว้นเวเนโต(Veneto) อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี

…บรรยากาศของเมืองก็จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึกมีทั้งที่อยู่ตามตรอกซอกซอย และตามพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนของที่ระลึกที่เป็นที่เป็นเอกลักษณ์แบบสุด ๆ ของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นหน้ากากแฟนซีนี่แหละครับ..

…เมื่อมาถึงเวนิสการจะสำรวจพื้นที่ให้ครบที่สุดก็คือการเดินเท้าไปตามซอกตามซอย หรือจะนั่งเรือแท๊กซี่ เรือกอนโดลาก็แล้วแต่..

…ส่วนมุมที่ถ่ายภาพสวย ๆ ที่คนนิยมมายืนถ่ายรูปกันอีกหนึ่งจุดก็คือบริเวณ “สะพานริอัลโต้ : Rialto Bridge” ยิ่งเป็นช่วงเวลาเช้า หรือเย็นด้วยแล้วน่าจะสวยงามมาก .. แต่ผมว่าช่วงเช้าน่าจะถ่ายรูปได้โล่งปลอดโปร่งจากคนมากกว่า เพราะระหว่างวันจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเบียด ๆ กัน

…วันที่มาถึงอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ฟ้าครึ้มฝนก็ลงเม็ดบาง ๆ ดีว่ายังตกไม่หนักก็เลยยังพอถ่ายรูปเล่นเก็บภาพกลับมาได้หน่อย .. ส่วนใครที่เดินทางมาผมว่าอย่างน้อยควรมีเวลาสัก 1 คืนมานอนค้างที่เวนิส.. เพื่อซึมซับบรรยากาศของเมืองแห่งสายน้ำ และพิสูจน์ว่าเป็นอีกเมืองที่มีความโรแมนติกจริงแท้มากน้อยแค่ไหน

…แต่ความสวยงามความสุนทรีย์ก็อาจไม่ได้ทำให้เราเพลิดเพลินได้เสมอไป เพราะถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นยุโรปแล้วโดยเฉพาะกับประเทศนี้อีกเรื่องหนึ่งที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงไม่แพ้ด้านอื่นก็คือเรื่องของ “มิจฉาชีพ” .. อิตาลีนั่นขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวมักจะเจอเหล่ามิจฉาชีพปองร้ายอยู่บ่อย ๆ และที่นี่ก็เช่นกัน ด้วยปริมาณความเยอะของนักท่องเที่ยวที่วุ่นวายก็ยิ่งทำให้เหล่ามิจฉาชีพมีโอกาสมาทำมิดีมิร้ายเราได้มากขึ้น.. ดังนั้นเดินไปเดินมาไม่ว่าจะจุดไหนก็ตามก็ต้องระวังไว้หนัก ๆ เลยครับ

…บรรยากาศยามเช้านั่นคนจะบางตาระหว่างวัน และช่วงเย็น ๆ ค่อนข้างมาก.. และนี่ก็เป็นอีกช่วงเวลาที่น่ามาเดินเล่นเก็บภาพสวย ๆ กลับไป แม้พื้นที่ทั้งหมดของเวนิสจะไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก แต่ก็ยังมีความสวยงามของสถาปัตยกรรม และกลิ่นไอของวัฒนธรรมตะวันตกอยู่ในหลาย ๆ จุดไม่ว่าจะเป็น Doge’s Palace, St.Mark’s Square, Saint Mark’s Basilica, Bridge of Sighs, Piazza San Marco ซึ่งสถานที่ทั้งหลายเหล่านี้ก็อยู่บริเวณเดียวกัน เรียกว่าเราสามารถเดินเล่นและเก็บภาพสวย ๆ ได้ครบ ๆ อย่างไม่ยากเย็น

…ช่วงเวลาสั้น ๆ วันกว่า ๆ และยังได้นอนที่นี่อีก 1 คืน ทำให้รู้สึกได้ว่าเป็นเมืองน่ารัก ๆ แม้สถานที่จะไม่ได้กว้างขวางใหญ่โตอะไรมากนัก แต่ด้วยเอกลักษณ์ความโดดเด่นของเมืองแห่งสายน้ำที่มีไม่กี่แห่งทำให้เวนิสนั้นไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเป็นที่ปรารถนา อยากเดินทางมาสัมผัสของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกอยู่เสมอ ๆ .. แม้การเดินไปเดินมาอาจต้องระวังตัวจากมิจฉาชีพมากสักหน่อย แต่ถ้าระวังกันแล้วก็สามารถเดินเที่ยวได้อย่างปลอดภัย .. ตื่นแต่เช้ามาเดินเล่นผ่านตรอกซอกซอยในขณะที่ร้านหลายร้านยังไม่เปิดทำให้เดินได้สบาย มาถึงบริเวณริมท่าเรือถ่ายรูปเล่นรอแสงเช้า หามุมที่แสงส่องสวย ๆ เดินเก็บภาพไปพอเพลิน ๆ .. ตกกลางวันก็เดินช๊อปปิ้ง หรือหามุมสวย ๆ ตามคลองเล็ก ๆ ปิดท้ายด้วยการนั่งเรือกอนโดล่าสัมผัสบรรยากาศให้ถึงที่สุด และให้แน่ใจได้ว่ามาถึงเวนิสจริง ๆ…

…ขอบคุณ We Are Wanderlust Travel สำหรับการเดินทางครั้งนี้ที่จัดโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยวเจ๋ง ๆ หลายต่อหลายเมืองให้ลูกค้าได้เดินทางมาเที่ยวกัน.. และเวนิสก็คือหนึ่งบทเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ซึ่งหวังไว้ว่าผมเองคงจะได้กลับมานอนค้างที่นี่อีกสักคืน เดินเล่นอีกสักครั้งก็คงจะดีไม่น้อย…

 

Facebook Comments
Please follow and like us:
20